Categories
News

“กระแต อาร์สยาม” ควงสองหนุ่ม “บุ๋น-เปรม” โชว์ร้องเพลงอีสานครั้งแรกในชีวิต พร้อมส่งเอ็มวี “ถ่าอ้ายมาเฮ็ด” ชวนสะบัดท่าเต้นจัดเต็มเกินร้อย

หลังสร้างกระแสฮือฮากับการ Cover เพลง “วิลิศมาหรา (GODDESS)” ไปเมื่อต้นปี สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาวราชินีแดนซ์คนล่าสุดของเมืองไทย “กระแต อาร์สยาม” (แตร บุญยะเลี้ยง) มาวันนี้ ยังได้ควงสองหนุ่มสุดฮอต บุ๋นนพณัฐ กันทะชัย และ “เปรม-วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ ร่วมสร้างสรรค์โปรเจกต์ใหญ่ ด้วยการโชว์ร้องเพลงภาษาถิ่นอีสานเป็นครั้งแรกในชีวิตใน “ถ่าอ้ายมาเฮ็ด” เพลงแดนซ์จังหวะสนุกที่ผสานความเป็นลูกทุ่งผสมดนตรีสมัยใหม่ ทั้ง TRAP และ EDM ในเนื้อหาความรักการจีบกันระหว่างชายหญิง ซึ่งจุดเด่นคือ beat ของเพลงที่มีจังหวะมันส์ ชวนให้ฟังสนุก และอยากลุกขึ้นมาเต้นแบบสุดๆ เหมือนในเอ็มวีที่ ทั้ง กระแต และ บุ๋น เปรม ต่างก็ประชันสะบัดท่าเต้นจีบกันผ่านรถแห่คันใหญ่ และรถจี๊ปแอดเวนเจอร์ขนบั้งไฟ ภายใต้บรรยากาศฉากแสงสีที่เนรมิตด้วยเอกลักษณ์ความเป็นศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสานอย่าง แคน เครื่องดนตรีพื้นบ้าน หรือชุดเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรวา ผ้ามัดหมี่ และผ้าขิด อย่างสวยงามล้ำสมัย ซึ่งงานนี้สาว กระแต ก็ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการทำงานเพลงใหม่ว่า

กระแต เป็นสาวลำปาง ที่ไม่เคยร้องเพลงอีสานมาก่อนเลย รู้สึกว่ายากมั้ยคะ?

“ยากค่ะ ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นและรู้สึกกังวล เพราะกลัวร้องออกมาแล้วสำเนียงไม่เหมือนเค้า เลยจะเข้าไปดูต้นฉบับอย่างแม่นกน้อย อุไรพร ในวิธีการเกริ่นลำ เอาสำเนียงที่เป็นออริจินอลมาผสม ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ต้องเป็นสำเนียงที่เป็นตัวเอง ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป ก็จะดูเป็นแบบสำเนียงอีสานผสมเหนือนิดๆ แต่เราโชคดีที่ภาษาเหนือจะคล้ายๆ กับอีสาน โดยรวมถือว่ายาก เลยอยากให้ทุกคนได้ลองฟังดูค่ะว่าชอบมั้ย”

 ได้ร่วมงานกับสองหนุ่มสุดฮอต “บุ๋นเปรม” ครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง?

“ตอนได้ยินชื่อครั้งแรกก็ตกใจเพราะว่าน้องๆ ฮอตมาก ยิ่งไปส่องไอจีคือมีคนติดตามและแฟนคลับเยอะ ดีใจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกัน รู้สึกได้ว่าน้องๆ เป็นคนน่ารักและเฟรนด์ลี่ ทำงานด้วยกันง่ายมาก น้องๆ เป็นคนที่มีความตั้งใจ ความพยายาม และเต็มที่กับงานมาก แต่จะมีความกังวลเพราะเค้าบอกตลอดว่าได้เต้นกับพี่กระแตนี่ โอ้โห ต้องเต้นตายแน่ๆ เค้าก็กลัวว่าจะเต้นออกมาไม่ดี แต่สุดท้ายน้องๆ ก็ทำได้ดีมากๆ น่ารักมากค่ะ”

มีส่วนร่วมในการทำงานเพลง ถ่าอ้ายมาเฮ็ด ตรงไหนบ้าง?

“จริงๆ มีส่วนในทุกรายละเอียดของเอ็มวีค่ะ ทั้งในเรื่องดีไซน์การร้อง ทำนองที่เราอิมโพรไวส์เอง เรื่องดนตรีก็จะเสนอแนะในแต่ละท่อนด้วยความที่เราอยากให้ท่าเต้นมันส์ขึ้นก็จะเสนอขอดนตรีตรงนั้นนี้เพิ่มค่ะ ส่วนท่าเต้นแตรเองก็ช่วยกันดู เพราะอยากให้มีท่าเต้นอย่างท่อนฮุคเป็นไวรัลในติ๊กต๊อก ก็จะช่วยออกแบบกับโคโรกราฟคือน้องเทกซัส น้องทากะ คนเดิม และยังมีส่วนร่วมในเรื่องเสื้อผ้า การตัดต่อเอ็มวีก็จะวางเรฟเฟอเรนซ์ ภาพมู๊ดแอนด์โทนประมาณนี้ไว้ เรียกว่ามีส่วนร่วมในทุกส่วนเลยค่ะ”

ในเอ็มวีนี้ มีเสื้อผ้า หน้าผม สุดแซ่บ กี่แบบ อะไรบ้าง?

“เสื้อผ้าหน้าผมเพลงนี้ชิลๆ ค่ะ ไม่เยอะประมาณ 3 ชุด แต่ถ้ารวมซีนหัว ที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า (หัวเราะ) ก็นับเป็น 4 เซ็ตค่ะ จะมีที่เป็นเมนหลักคือกางเกงแดง กระโปรงแดง ชุดเรืองแสง-นีออน แล้วก็เซ็ตที่ใส่เครื่องหัวประยุกต์จากรูปแคนเป่า เหมือนราชินีแคน เป็นการทำงานที่สนุกมากเพราะว่ามีความเป็นสตรีท สมัยใหม่และเป็นตัวเอง ฟีลลิ่งเหมือนลดอายุตัวเองลงมานิดหนึ่งเพราะทำงานกับเด็กค่ะ (หัวเราะ) ทรงผมก็จะเป็นแบบมัดแกะ ยาวๆ เซล่ามูน ซึ่งแตรไม่เคยได้ทำลุคนี้แบบจริงจังออกสื่อ ลุคเป็นสาวแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าส์ ส่วนการแต่งหน้าจะเป็นเนเจอรัลลุค ไม่ได้แฟชั่นจ๋ามากค่ะ”

 

ฝากผลงานเพลงใหม่ ถ่าอ้ายมาเฮ็ด?

“ก็ขอฝากผลงานเพลงใหม่ ถ่าอ้ายมาเฮ็ด ที่ทั้งได้ร่วมงานกับน้อง บุ๋น เปรม และได้ร้องภาษาอีสานเป็นครั้งแรกด้วย ฝากแฟนเพลงทุกๆ คนติดตามเป็นกำลังใจให้พวกเราไปเรื่อยๆ ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

ติดตามชมกดไลค์กดแชร์เอ็มวี “ถ่าอ้ายมาเฮ็ด” ของ กระแต อาร์สยาม x บุ๋น เปรม ได้ที่ >> https://bit.ly/2ZDA4mI

 

Categories
News

“เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” แต่งเพลงใหม่ “ซอมทาง” จากแรงบันดาลใจคนไกลบ้าน ที่เฝ้ามอง รอคอยคนรักด้วยความคิดถึงและห่วงใยที่อยู่ปลายทาง

แค่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็มีความคิดถึงคนที่รักบ้านที่เคยอยู่เคยกินมากพออยู่แล้ว แต่มาเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ก็ยิ่งทำให้ใครหลายๆ คน จำต้องห่างจากบ้านเกิดเมืองนอน ต้องกักตัว หรือไม่อาจกลับไปเยี่ยมพ่อแม่และคนที่คิดถึงได้ รวมทั้งไอคอนโมเดิร์นอีสาน “เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” (อาทิตย์ สมน้อย) ที่ก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน จนเกิดแรงบันดาลใจแต่งเพลงใหม่ “ซอมทาง” ที่ในภาษาอีสานแปลว่า เฝ้ามองทาง ซึ่ง เบิ้ล ปทุมราช ตั้งใจสื่อความหมายในเนื้อร้องและทำนองถึงการรอคอยของคนที่เรารักและรักเรา แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันและเหตุจำเป็นต่างๆ จึงทำได้แต่เฝ้ามองถนนหนทางพร้อมส่งผ่านความคิดถึงความห่วงใย เฝ้ารอคอยให้คนที่รักได้กลับมาหากัน เพลงนี้ยังส่งอารมณ์ความห่วงหา ด้วยจังหวะและท่วงทำนองดนตรีที่ผสมผสานเสียงร้องเศร้าซึ้งกินใจคนไกลบ้านอีกด้วย

โดย เบิ้ล ปทุมราช ได้เล่าถึงการแต่งเพลงใหม่นี้ว่า “ผมได้แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้มาจากรุ่นพี่ในวงการท่านหนึ่งครับ เค้าให้แนวคิดโจทย์เพลงที่สื่อถึงความเป็นลูกเป็นแม่ที่คิดถึงกัน ซอมทาง หมายถึงการมอง รอคอย ความหวังที่อยู่ปลายทาง เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเป็นความสุขหรือความทุกข์ แต่การ ซอมทาง’ ในภาษาอีสาน คือการมอง รอคอยใครคนหนึ่งที่เรารัก ซึ่งอาจเป็นใครก็ได้ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครอบครัว เพื่อน หรือคนที่เราห่วงที่สุดในชีวิตครับ”

เบิ้ล เล่าต่ออีกว่า “ด้วยความที่เนื้อเพลงนี้มันเศร้าอยู่แล้วครับ ผมเลยให้เครดิตอาจารย์จินนี่ ภูไท เป็นคนช่วยออกแบบดนตรีให้ไม่เศร้ามาก เสร็จแล้วก็รอถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ ซึ่งครั้งนี้ ผมจะไม่ขอเล่นเอ็มวีเอง แต่ตั้งใจจะกำกับด้วยตัวเอง แล้วหาพระเอกมาถ่ายทอดเรื่องราวแทนครับ ก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายและอยากลองทำ เลยขอฝากแฟนเพลง BFC ทุกคนเป็นกำลังใจ และติดตามผลงานเพลงใหม่ ซอมทาง เร็วๆ นี้ครับ”

Categories
News

‘อาร์เอส กรุ๊ป’ ผนึก ‘โฟร์ท แอปเปิ้ล’ ค้นหา Super Influencers ในโปรเจค ‘The Rising Influencer’ เปิดโอกาสให้ใครๆ ก็เป็นผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ได้

สร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งวงการ Influencers เมื่อ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป ผนึกกำลัง โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากัด บริษัทน้องใหม่ในเครือ ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างคอนเทนต์และการตลาดดิจิทัล เปิดตัว ‘The Rising Influencer’ โครงการค้นหาผู้มีความสามารถโดดเด่น เป็นนักเล่าเรื่องที่กล้าแสดงออก มีเอกลักษณ์ พร้อมจะมาผลิตคอนเทนต์ และสร้างอิทธิพลบนโลกโซเชียลร่วมกับเราในฐานะ Super Influencers บนช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ในเครืออาร์เอส กรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นช่อง RSfriends, Kamikaze, RSiam และ ช่อง 8 ที่มีฐานผู้ติดตามรวมมากกว่า 62 ล้านบัญชีผู้ใช้ โดยผู้ที่ได้รับเลือกจะได้ทำงานร่วมกับทีมงานมืออาชีพพร้อมโปรดักชันระดับคุณภาพ และมีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์และศิลปินชั้นนำระดับประเทศและนานาชาติ ไปจนถึงส่วนแบ่งรายได้และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แนวโน้มตลาดสื่อออนไลน์ในปัจจุบันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโฆษณาแต่ละปีมีมากกว่า106,255 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสื่อออนไลน์ 21,058 ล้านบาท และจากเม็ดเงินที่ใช้กับสื่อออนไลน์ทั้งหมด มากกว่า 40% ถูกใช้กับการจ้าง Influencer ในขณะที่ อาร์เอส มีประสบการณ์อยู่ในวงการบันเทิงและมีเดียมามากกว่า 40 ปี มีฐานผู้ติดตามรวมกว่า 62 ล้านบัญชีผู้ใช้ ซึ่งมีการเสิร์ฟคอนเทนต์ ทั้งละคร มวย รายการข่าว และเพลง ที่โดนใจผู้ชม ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด เรามีฐานแฟนคลับที่ตามรายการข่าวและบันเทิงอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันมีการเสพสื่อออนไลน์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ จึงให้ โฟร์ท แอปเปิ้ล ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างคอนเทนต์และการตลาดดิจิทัลเข้ามาเป็นฟันเฟืองหลักเพื่อสร้างและวางแผนการพัฒนาคอนเทนต์ รวมถึงสรรหาและดูแล Influencers ให้กับ อาร์เอส กรุ๊ป โดยเน้นการสร้างคอนเทนต์ใหม่สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มแฟนคลับไอดอลจากต่างประเทศ กลุ่มคนรักการเต้น คนรักการทำอาหาร และกลุ่มคนรักสัตว์ เป็นต้น เพื่อเติมเต็ม ecosystem ของบริษัท ภายใต้โมเดล Entertainmerce ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”

นายฐณณ ธนกรประภา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ โฟร์ท แอปเปิ้ล กล่าวว่า “ในฐานะที่ โฟร์ท แอปเปิ้ล เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสร้างคอนเทนต์และการตลาดดิจิทัล มีการทำคอนเทนต์รูปแบบใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนในหลากหลายไลฟ์สไตล์ อาทิ Food Truck Battle  และการคิดกลยุทธ์แบบหลอมรวมสื่อ (media convergence) ให้กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เราเล็งเห็นว่าเทรนด์การใช้ Online Influencer ในปัจจุบันมีการเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการนำคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ และ Influencers มาใช้ขับเคลื่อนการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากขึ้น จึงนับเป็นโอกาสดีที่ โฟร์ท แอปเปิ้ล จะได้ดึงศักยภาพสื่อออนไลน์ที่ อาร์เอส กรุ๊ป มีอยู่ โดยเฉพาะ YouTube ที่มีฐานผู้ติดตามรวมมากกว่า 48 ล้านบัญชีผู้ใช้ มาสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ จึงเป็นที่มาของโครงการ ‘The Rising Influencer’ โดย โฟร์ท แอปเปิ้ล จะเป็นที่ปรึกษาและช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงศักยภาพในแบบของตัวเองอย่างเต็มที่ และมีเป้าหมายเพื่อต่อยอดให้พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็น Super Influencer ในฐานะพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ บนช่องทางโซเชียลมีเดียในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป นอกจากจะได้รับส่วนแบ่งรายได้แล้ว โฟร์ท แอปเปิ้ล ยังมีทีมงานที่เชี่ยวชาญพร้อมโปรดักชันระดับคุณภาพสำหรับสนับสนุนตลอดการทำงานร่วมกัน และยังมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับแบรนด์และศิลปินชั้นนำระดับประเทศและนานาชาติ ที่สำคัญ การมีฐานผู้ติดตามมากกว่า 62 ล้านบัญชีผู้ใช้ของ อาร์เอส กรุ๊ป จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกกลายเป็นที่รู้จัก และเป็น Super Influencer ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”

“โปรเจคนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างฐานผู้ชมและลูกค้าใหม่ๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป พร้อมมุ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมแกร่งให้แก่โมเดลธุรกิจ Entertainmerce โดยโฟรท์ แอปเปิ้ล ตั้งเป้ารายได้จากการทำรายการในช่องทาง YouTube ไว้ที่ 200 ล้านบาทภายในปี 2565” นายฐณณ กล่าวเพิ่มเติม

ใครที่มีความสามารถ กล้าแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างโดดเด่น ไม่จำกัดเพศและอายุ* และไม่มีสัญญาผูกพันกับบริษัทใดที่เกี่ยวข้องกับงาน Influencer หากพร้อมที่จะมาร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการ Influencers ไปด้วยกัน สามารถกรอกใบสมัคร พร้อมส่งรูป คลิปความยาวไม่เกิน 60 วินาที 2 คลิป คลิปแรกแนะนำตัวและแสดงความสามารถพิเศษ และคลิปที่สองนำเสนอเรื่องราว เลือกตามหัวข้อที่กำหนด ดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/4thappleth และสมัครได้ที่ therisinginfluencer.co รับสมัครตั้งแต่วันที่ 16-31 ตุลาคม 2564 นี้เท่านั้น ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือก 40 คน จะเข้าสู่รอบทดสอบหน้ากล้อง และมีโอกาสเจอ Influencers ชื่อดังอย่าง บี้ เดอะสกา และ โฟร์-ศกลรัตน์ ที่จะมานั่งแท่นร่วมเป็นกรรมการตัดสิน และคัดเลือกผู้ที่จะก้าวไปสู่ Super Influencers ของ อาร์เอส กรุ๊ป

*หมายเหตุ  ผู้เข้าประกวดที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและกรอกข้อมูลของผู้ปกครองประกอบการสมัคร