Categories
News

ควีนอ๊อฟแดนซ์ “กระแต อาร์สยาม” ก้าวข้ามขีดจำกัด โชว์พลัง ร้อง เต้น เล่นเอ็มวีเพลงใหม่ “ดูดพิษ (Love Sucks)” แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน

หลังโชว์ร้องเพลงภาษาถิ่นอีสานเป็นครั้งแรกในชีวิตกับ “ถ่าอ้ายมาเฮ็ด” เพลงแดนซ์จังหวะสนุกที่ผสานความเป็นลูกทุ่งผสมดนตรีสมัยใหม่ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดควีนอ๊อฟแดนซ์ “กระแต อาร์สยาม” ขอก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อท้าทายตัวเองขึ้นอีกขั้นกับ “ดูดพิษ (Love Sucks)” เพลงช้าสไตล์ป๊อปร็อคโชว์พลังเสียงแบบที่ไม่เคยร้องมาก่อน พร้อมสเต็ปท่าเต้นท่อนฮุคลุคเซ็กซี่ และยังลงทุนเล่นเอ็มวีในฉากเลิฟซีนสุดแซ่บกับนายแบบลูกครึ่งหล่อเข้ม ถ่ายทอดเรื่องราวของแวมไพร์สาวสวยผู้ทุ่มเทหัวใจให้ชายที่รัก แม้เค้าจะอกหักจากหญิงอื่นมากี่ครั้งเธอก็ยังพร้อมเยียวยาดูดพิษจากหัวใจ โดย สาวแตร เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานเพลงใหม่นี้ว่า

“ดูดพิษ (Love Sucks)” เป็นเพลงแนวไหน ยากมั้ย?

“เป็นเพลงช้าสไตล์ป๊อปร็อคค่ะ ถือเป็นครั้งแรกที่กระแตออกเพลงแนวนี้แบบเต็มตัว ตั้งใจอยากให้แฟนๆ ที่ชอบฟังเพลงหลายสไตล์ได้มาฟังเราร้องแนวอื่นบ้าง และเป็นการท้าทายตัวเองด้วย เพราะก็ยากนะคะ เพลงนี้ค่อนข้างมีลูกเล่นเทคนิคผสมผสานในการร้องหลากหลายมาก มีเสียงกระเส่าอย่างคำว่า ‘หาย’ ร้องยังไงให้รู้สึกว่าหายจริงๆ ที่ยากสุดในท่อนฮุคคำว่า ‘หัว’ เป็นลมเดียวแต่คีย์สูง วันที่เข้าห้องอัดคือพกยาดม (หัวเราะ) เพราะจะเป็นลมจริงๆ ต้องทำการบ้านเยอะค่ะ ไปอัด 2 รอบ คือรอบแรกให้คะแนนตัวเองแค่ 50 เลยต้องกลับไปอัดใหม่เพราะอยากให้ออกมาดีที่สุดค่ะ”

ได้ทำงานกับนักแต่งมือทอง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม ครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง?

“ที่ผ่านมาก็ติดตามผลงานของพี่ฟองเบียร์มาตลอดนะคะ ตั้งใจว่าถ้าเรามีเพลงช้าอีกสักเพลงก็อยากลองให้พี่เค้าแต่ง เพราะลึกๆ แตรเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแนวป๊อปร็อคมาตั้งแต่เด็กเรียกว่าคลุกคลีมาตลอดค่ะ การร้องมีความยากอย่างที่บอกเพราะมีทั้งความเท่ด้วยดนตรีร็อคที่เป็นลายเซ็นพี่ฟองเบียร์ บวกกับความเป็นกระแตเข้าไปด้วยค่ะ”

นอกจากการร้องที่ท้าทายแล้ว เพลงนี้ก็ยังไม่ทิ้งการเต้น?

“ตอนแรกเลย คิดว่าเพลงช้าจะไม่ได้เต้น แต่ถ้าย้อนกลับไปดูเพลง เบอร์คนอกหัก กับ อารมณ์หญิง ก็ยังมีเต้น ก็เลยซ้อมกันก่อนถ่ายเอ็มวีวันเดียวเลย (หัวเราะ) เป็นไฮฮิลแดนซ์ ในแนวคอนเทมโพรารี่ ผสมแจ๊สเบาๆ แต่ยากมากสำหรับการเต้นบนรองเท้าส้นสูงมีท่าหมุนเยอะมากค่ะ”

เสื้อผ้าในเอ็มวีเพลงนี้ ได้ข่าวว่ามีถึง 6 ชุดเลย กระแตมีส่วนร่วมยังไงบ้าง?

“ตอนแรกจะมีแค่ 4 ชุด แต่เพิ่มมาจากไหนก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ก็ได้พี่อัน-Unkuniya สไตลิสต์ช่วยออกแบบตัดเย็บ ส่วนแตรเองก็ช่วยคิดคอนเซ็ปต์เพราะอยากให้แตกต่างจากเพลงที่ผ่านๆ มา และก็ให้เข้ากับสตอรี่บอร์ดเอ็มวีเป็นราชินีแวมไพร์ มีเล็บยาวๆ ดูดุๆ ชุดทั้งหมดก็คือชุดอยู่บ้าน สวยๆ (หัวเราะ) แซ่บทุกชุด อย่างชุดสีแดงคือชุดนอนไม่ได้นอนซีทรูทั้งตัว และชุดคริสตัลทั้งชุดก็ซีทรูเหมือนกันแต่แตรใส่บราสีเนื้อข้างในให้ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็จริงๆ ป้องกันอยู่ และก็มีชุดสีดำที่ร้อยสร้อยกระดูกโปร่งๆ ช่วงเอวเก๋ๆ ค่ะ”

เรื่องราวเอ็มวีเพลง ดูดพิษ (Love Sucks) เป็นยังไงคะ?

“เพลงนี้เนื้อหาดีมากนะคะ แตรชอบที่ความหมายโดนใจสาวๆ หลายๆ คนที่ไม่สมหวังกับความรัก รู้สึกตัวเองเหมือนเป็นของตาย เรารักเค้าอยู่ข้างเดียว พอเค้าอกหักมาเราก็คอยดูแลรักษาดูดพิษออกให้ ไม่ว่าจะซมซานปวดร้าวจากความรักที่ไหน พอกลับมาฉันก็คอยเยียวยาให้เธอหายดีแล้วเธอก็จากไป จนคิดว่าจะต้องหาวิธีทำให้เค้าอยู่กับเราตลอดไป เราก็เลยดูดเลือดแล้วทำให้เค้ากลายเป็นแวมไพร์และกลับออกไปไม่ได้อีกค่ะ”

ฝากผลงานเพลง ดูดพิษ (Love Sucks)

“ถือเป็นมิติใหม่นะคะ สำหรับแตรมองว่าแต่ละเพลงมีความหลากหลายในการร้อง อย่างเพลงนี้ก็มีความเป็นกระแตเข้าไปด้วย แฟนๆ ที่รอคอยเพลงช้าของกระแตน่าจะชอบ ทั้งทีมงานก็ตั้งใจเต็มที่มาก เนื้อเพลงตรงใจสาวๆ หลายคน กับสายแดนซ์ส้นสูงก็มีความแซ่บพอสมควร ฝากแชร์ฝากคัฟเวอร์ด้วยนะคะ ส่วนใครที่อยากเห็นแม่แดนซ์แบบเต็มๆ เร็วๆ นี้จะปล่อยต่อเลย ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ”

ชมมิวสิควิดีโอ ดูดพิษ (Love Sucks) ของ กระแต อาร์สยาม >> https://bit.ly/3IKYA6r

Categories
News

แหกกฎลูกทุ่งป๊อบแดนซ์!! สู่ซุปตาร์ลูกทุ่งชื่อดัง “ใบเตย อาร์สยาม”

กว่าจะมาเป็นใบเตย สุธีวัน  กุญชร หรือ ใบเตย อาร์สยาม ในวันนี้   ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย  เธอสู้อดทนและขยันหมั่นเพียรเดินตามฝัน จนได้เป็นซุปตาร์ลูกทุ่งป๊อบแดนซ์แถวหน้าของเมืองไทย ที่ใครๆ ก็รู้จัก  เส้นทางการเป็นศิลปินของเธอผ่านร้อนผ่านหนาวถูกบูลี่มากมาย แต่เธอคนนี้ก็ผ่าฟันมาไกลเกินฝันด้วยความเป็นตัวเอง “สั้นเสมอหู” แหกกฎของวงการลูกทุ่งป๊อบแดนซ์จนเป็นภาพจำจนถึงทุกวันนี้

ด้วยความที่มีคุณแม่วันเพ็ญ ทวีสิน  เป็นเจ๊ดันชอบร้องเพลง สิ่งนี้เป็นความฝันของแม่ แม่จึงผลักดันให้ใบเตยเข้าสู่วงการประกวดร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ชนะบ้างแพ้บ้าง แต่ใบเตยก็สู้สุดแรง กวาดถ้วยรางวัลมาให้แม่ได้สมใจ ใบเตยมีโอกาสได้ไปประกวดร้องเพลงของพานาโซนิค สตาร์ ชาเลนจ์ ปี 2547 ได้รางวัลนักร้องดีเด่นระดับประเทศ จึงได้เป็นศิลปินฝึกหัดค่ายอาร์เอส  ใบเตย จึงได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ตอน ม. 5 เพียงลำพัง  หลังเลิกเรียนเธอต้องนั่งรถเมล์ ต่อรถกระป๊อ และวินมอเตอร์ไซค์ มาเรียนร้องเต้นที่ค่ายอาร์เอสเป็นเวลา 4 ปีเต็ม  ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นนักร้องเดินสายประกวด เธอจึงถูกบูลี่ด้วยสายตาและคำพูด ในระหว่างนั้นหลายคนได้ออกซิงเกิล บางคนถูกยกเลิกสัญญา ตอนนั้นใบเตยยอมรับว่าใจแป๊วเหมือนกัน  คิดว่าเส้นทางการเป็นศิลปินที่เพียรพยายามฝึกฝนมาถึง 4 เต็มน่าจะสิ้นสุดแล้ว แต่ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ในการร้องเพลงลูกทุ่งทำให้ใบเตยได้ถูกโอนย้ายมาอยู่ที่ค่ายอาร์สยาม และได้ออกซิงเกิลเป็นของตัวเองเพลง “ปากไม่….ใจคิดถึง” เพลงนี้ลุคยังดูเรียบร้อยอยู่ สาวหวานสดใสตามวัย   จึงยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก  แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ขอเป็นตัวของตัวเองนุ่งสั้นแบบแหกกฏการเป็นลูกทุ่งป๊อบแดนซ์ในเพลงโคโยตี้ค่ะพี่ และ เพลงเช็คเรตติ้ง บอกเลยว่า 2 เพลงนี้ลุคการนุ่งสั้นของใบเตยชัดมาก จนมาถึงเพลงรักต้องเปิด(แน่นอก) ที่ทำเอาเธอดังชั่วข้ามคืน และเปลี่ยนชีวิตของเธอให้เป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้

ใบเตยยอมรับว่า “ด้วยบุคลิกของตัวเองที่เป็นคนชอบนุ่นสั้นแต่ไหนแต่ไร เหมือนคุณแม่ที่เป็นคนที่ชอบแต่งตัวเปรี้ยวๆ  แต่ภาพจำของนักร้องลูกทุ่งยุคนั้นคือต้องเรียบร้อย เหมือนมีกำแพงมากั้น ซึ่งชีวิตจริงใบเตยตรงข้ามทุกอย่าง  พอเรามานุ่งสั้นเหมือนเป็นการเปิดตลาดลูกทุ่งป๊อบแดนซ์ว่าไม่จำเป็นต้องเรียบร้อยอีกต่อไป   ช่วงนั้นโดนหมั่นไส้เยอะเรื่องนุ่นสั้น  แต่มีงานเข้ามาเยอะมาก ได้เดินสายออกรายการต่างๆ ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศไทย  มีงานจ้างทุกวัน เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จนเพื่อนๆ หลายคนยังตกใจไม่คิดว่าเราจะมาไกลถึงวันนี้  ตั้งแต่ทำงานหาเงินได้ก็ส่งให้ที่บ้านตลอด พ่อแม่ไม่ต้องทำงาน ส่งน้องเรียนจนจบปริญญา เงินทุกบาททุกสตางค์หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจนมีวันนี้ วันที่มีครอบครัวสมบูรณ์ทุกอย่างค่ะ